ขั้นที่ 4 การใช้เข่า
การใช้เข่าป้องกัน
การใช้เข่า ในศิลปะมวยไทย จัดว่าเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นที่สุดของมวยไทยควบคู่กับการใช้ศอก ที่ใครเห็นก็การชกที่มีการใช้เข่าก็ทราบได้ทันทีว่านี่คือมวยไทย ซึ่งการฝึกใช้เข่าในการต่อสู้นั้นมีความยากพอสมควร ซึ่งไม่ยากในการเรียนรู้ แต่ยากในการออกอาวุธได้ถูกต้องและรุนแรง แต่หากฝึกสำเร็จก็นับเป็นอาวุธชั้นดีในการต่อสู้ระยะประชิดตัวศิลปะการใช้เข่า ภายในเล่มจะนำเสนอ การใช้เข่าของมวยไทยหลากหลายรูปแบบ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะใหญ่ๆ คือ การใช้เข่าโดยไม่ใช้มือหรือแขน และการใช้ศอกโดยใช้มือหรือแขนช่วยเกาะยึด การฝึกการใช้เข่าต้องฝึกร่วมกับผู้อื่น ฉะนั้นผู้ศึกษาควรศึกษาทางทฤษฎีให้เข้าใจก่อนนำไปฝึกซ้อมปฏิบัติ เพื่อป้องกันการบาดเจ็บและอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นโดยแต่ละท่าเข่า จะบอกขั้นตอนของการออกอาวุธโดยละเอียด พร้อมภาพประกอบ ตลอดจนเกร็ดคำแนะนำที่มีประโยชน์ เพื่อให้ผู้ศึกษาได้เข้าใจและเห็นภาพได้อย่างชัดเจน
1. เข่าตรง
ใช้เวลารุก รับ หรือถอย การป้องกัน บิดตัวพร้อมกับกดศอกซ้ายลงปิดชายโครง การตอบแก้ ใช้เท้าขวาถีบจิกยันคู่ต่อสู้ ถ้านักมวยจดเหลี่ยมซ้ายให้กลับคำอธิบายขวาเป็นซ้ายทั้งสิ้น
2. เข่าเฉียง
กดศอกลงปิดชายโครง การตอบแก้ ใช้เข่าข้างซ้ายตีชายโครงข้างขวาของคู่ต่อสู้หรือพุ่งตรงหมายท้องคู่ต่อสู้ก็ได้ ถ้านักมวยจดเหลี่ยมซ้าย ให้กลับคำอธิบายขวาเป็นซ้ายทั้งสิ้น
3. เข่าโค้ง
หลัง ให้แขนข้างซ้ายขวางรับศอกบนแขนขวาขวางรับเข่าข้างล่างการตอบแก้ ให้ใช้ขาขวาเตะขาคู่ต่อสู้เวลากระโดดชึ้นให้เสียหลัก แล้วใช้ศอกขวาตามตีหมายบริเวณหน้าคู่ต่อสู้
4. เข่าตัด
เข่านี้ใช้ได้ทั้งสองข้าง เพราะใช้เมื่อคู่ต่อสู้รุกเข้ามา หรือคู่ต่อสู้เสียหลัก ให้ใช้แขนหรือศอกตีคอคู่ต่อสู้กดลง แล้วใช้เข่าข้างยกขึ้นตีหมายลูกคางหรืออกของคู่ต่อสู้ ใช้เวลาเข้าประชิดหรือคู่ต่อสู้เสีย
หลัก การป้องกัน ให้ยกแขนสองข้างและหมัดกันหน้าและอก การตอบแก้ เมื่อตั้งหลักได้ให้บิดตัวไปทางซ้ายหรือขวา เพื่อหาทางตอบโต้
5. เข่าเหน็บ
ให้เอียงตัวกดศอกขวาลงปิดชายโครงข้างขวาพร้อมกับบิดตัวหันข้างไปทางขวา กดศอกซ้ายลงปิดชายโครงข้างซ้าย การตอบแก้ ใช้เท้าซ้ายถีบบริเวณท้องคู่ต่อสู้ให้คู่ต่อสู้เสียหลักแล้วตามด้วยเชิงอื่น
6. เข่าน้อย
การป้องกัน เอียงตัวกดข้อศอกขวาลงต่ำปิดชายโครงข้างขวากัน เข่าซ้ายของคู่ต่อสู้ ใช้แขนซ้ายปัดศอกขวาของคู่ต่อสู้ไปข้างหลัง การตอบแก้ ใช้เท้าซ้ายถีบจิกที่ท้องคู่ต่อสู้ ถ้านักมวยจดเหลี่ยมซ้าย กลับคำอธิบายขวาเป็นซ้ายทั้งสิ้น
7. เข่าลา
เอียงตัวพร้อมกับกดศอกขวาลงปิดชายโครงข้างขวากันเข่าซ้ายคู่ต่อสู้ใช้แขนซ้ายยกขึ้นขวางรับศอกขวาคู่ต่อสู้ การตอบแก้ ให้ใช้เท้าซ้ายถีบจิกหน้าท้องคู่ต่อสู้ให้เสียหลัก แล้วใช้เชิงอื่นตาม
8. เข่าโหน
คือเข่าที่ต้องอาศัยมือ หรือแขนเกาะโหนคอ ไหล่ หรือศรีษะของคู่ชกเอาไว้แล้วตีเข่าสวนขึ้นซึ่ง แรงที่กดลงสวนกับทิศทางเข่าที่ตีสวนขึ้นจะทำให้ เป้าหมายเสียหาย บอบช้ำมาก เช่นการโหนตีเข้าที่ใบหน้า ลิ้นปี่ หรือหน้าอก เป็นต้น
9. เข่ากด
เป็นการตีเข่าที่ใช้แรงดันออกจากลำตัว เป็นการตีเข่ากดลง ผู้ที่มีรูปร่างสูงจะใช้เข่ากดได้ดี เมื่อกดออกและกดลงแล้วจะรุนแรงมาก เมื่อออกท่าเข่ากดแล้วยกค้างเอาไว้ก็จะเป็นการป้องกันตัวได้ดีอีกด้วย
10. เข่าโยน
ด้วยการวิ่งหรือกระโดดเข้าเป้าหมายเมื่อเท้าถึงพื้นให้ใช้เท้าหลังดีดตัวส่งแรงตีเข่าขึ้น ขาด้านหน้าเหยียดตรงขาที่ตีเข่าเมื่อดีดขึ้นจะงอพับและพุ่งล้ำหน้าไปยังเป้าหมาย แขนซ้ายขวาปิดคางให้รัดกุม ป้องกันการสวนกลับโอกาสในการใช้เข่าลอยคือเวลาที่คู่ชกเสียหลัก ไม่ระวังตัว หรือหากชำนาญมากก็สามารถใช้เป็นการโต้กลับในเวลาที่คู่ชกรุกเข้ามาผิดจังหวะก็ได้เช่นกัน
11. เข่ายอ
เป็นการตีเข่าโดยเอามือกดคู่ชกเพื่อดันตัวขึ้นตีเข่าซึ่งส่งให้น้ำหนักเข่าหนักหน่วงและรุนแรงมาก เช่นเอามือกดที่เข่าคู่ชกแล้วเด้งตัวขึ้นตีเข่า หรือ กดหน้าตัก เอว หน้าขาส่วนบนเป็นต้น
12. เข่าเหยียบ
ที่เราสามารถใช้ขาของคู่ชกเป็นฐานซึ่งแตกต่างกับการจรดมวยในยุคปัจจุบันจึงยากต่อการฝึกฝนและถือว่าเป็นท่าที่อันตราย ส่งผลกับความเสียหายของสมองโดยตรง ปัจจุบันจึงฝึกฝนกันเพื่อสาธิตเท่านั้น
13. เข่าคู่
จะสร้างความเสียหายให้กับคู่ชกได้มากอันตรายถึงขั้นซี่โครงหักและทำลายปอดได้ ท่าเข่าคู่จึงมีให้เห็นเฉพาะการแสดงสาธิตจากนักมวยที่ฝึกฝนมาแล้วอย่างดีเท่านั้น
14. เข่าลอย
เมื่อเท้าถึงพื้นให้ใช้เท้าหลังดีดตัวส่งแรงตีเข่าขึ้น ขาด้านหน้าเหยียดตรงขาที่ตีเข่าเมื่อดีดขึ้นจะงอพับและพุ่งล้ำหน้าไปยังเป้าหมาย แขนซ้ายขวาปิดคางให้รัดกุม ป้องกันการสวนกลับโอกาสในการใช้เข่าลอยคือเวลาที่คู่ชกเสียหลัก ไม่ระวังตัว หรือหากชำนาญมากก็สามารถใช้เป็นการโต้กลับในเวลาที่คู่ชกรุกเข้ามาผิดจังหวะก็ได้เช่นกัน
15. กันด้วยแขน
16. จับทุ่ม
การทำให้ล้มในมวยไทยมีหลายแบบ แต่ที่ถูกต้องตามกติกาะต้องไม่ขัดขา ซึ่งอาจจะใช้วิธีการบังเกาะจับ แล้วจึงผลักให้ล้ม หรือเหวี่ยงให้ล้ม
อย่างไรก็ตามการทำให้ล้มต้องอาศัยศิลปะการใช้แรงเหวี่ยง เพราะการล้มบางครั้ง ไม่ต้องใช้แรงมากนัก ก็สามารถทำให้คู่ต่อสู้ล้มได้
17. กันด้วยเข่า
กันด้วยเข่า หมายถึงการเข่าปิดป้องอวัยวะที่เป็นจุดอ่อนของร่างกาย ส่วนมากการปิดป้องจะต้องปะทะกับไม้มวยของคู่ต่อสู้อย่างรุนแรง
จึงต้องใช้ส่วนที่แข็งแรงกว่าส่วนที่เป็นไม้มวยของคู่ต่อสู่ที่จู่โจมมา ใช้เข่าปิดป้องบริเวณหน้าอก ชายโครง แต่อย่างไรก็ดี เมื่อปิดป้องแล้วจะต้องอยู่ในท่าที่สามารถตอบโต้คู่ต่อสู้ได้ทันที
18. ผลักให้เสียหลัก
ใช้วิธีการบังเกาะจับ แล้วจึงผลักให้ล้ม ผลักที่ต้นแขนคู่ชกออกสุดแรง เมื่อปิดป้องแล้วจะต้องอยู่ในท่าที่สามารถตอบโต้คู่ต่อสู้ได้ทันที